Data-Driven คืออะไร? ทำไมองค์กรยุคใหม่ถึงให้ความสำคัญ

Data-Driven คืออะไร? ทำไมองค์กรยุคใหม่ถึงให้ความสำคัญ

10 January 2025

“ข้อมูล” เปรียบเสมือนเชื้อเพลิงที่ขับเคลื่อนองค์กรให้เติบโตและก้าวหน้า องค์กรที่สามารถใช้ข้อมูลอย่างชาญฉลาด ไม่เพียงแค่เพิ่มความได้เปรียบในการแข่งขันเท่านั้น แต่ยังช่วยให้ปรับตัวต่อความเปลี่ยนแปลงของตลาดได้อย่างยั่งยืน การนำแนวคิด Data-Driven มาใช้ในองค์กรคือการเปลี่ยนแปลงก้าวสำคัญ ที่ไม่ใช่เพียงการเก็บข้อมูล แต่เป็นการวิเคราะห์และนำข้อมูลมาสนับสนุนการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ทุกระดับ ตั้งแต่การบริหารงานไปจนถึงการสร้างประสบการณ์ที่ตรงใจลูกค้า

ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปดูกันว่า Data-Driven คืออะไร มีความสำคัญต่อองค์กรอย่างไร พร้อมทั้งบอกเทคนิคการผลักดันองค์กรให้เป็น Data-Driven Organization รวมถึงยกตัวอย่างองค์กรที่ประสบความสำเร็จจากการใช้ Data-Driven มาขับเคลื่อนองค์กร

Data-Driven คืออะไร?

Data-Driven คือแนวคิดหรือกลยุทธ์ในการใช้ข้อมูล (Data) เป็นศูนย์กลางในการวางแผน ตัดสินใจ ในการดำเนินธุรกิจ หรือจัดการกับกระบวนการต่าง ๆ ขององค์กร โดยมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มความแม่นยำในการวางแผน เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน และลดความเสี่ยงในการตัดสินใจ ข้อมูลที่นำมาใช้งานสามารถเป็นได้ทั้งข้อมูลภายในองค์กร เช่น ยอดขาย สต็อกสินค้า และข้อมูลภายนอกองค์กร เช่น เทรนด์ตลาด พฤติกรรมผู้บริโภค โดย Data-Driven จะมีลักษณะสำคัญ 3 ข้อ คือ

1. มีการใช้ข้อมูลเป็นหลัก ทุกการวางแผนหรือการตัดสินใจจะต้องอิงจากข้อเท็จจริงที่ได้จากข้อมูล ไม่ใช่การคาดเดาหรือสัญชาตญาณ

2. มีการรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูล ให้ความสำคัญกับการรวบรวมข้อมูลที่ถูกต้อง ครบถ้วน และนำข้อมูลมาวิเคราะห์เพื่อหา Insights ที่ช่วยขับเคลื่อนธุรกิจ

3. มีการใช้เทคโนโลยีและเครื่องมือที่ทันสมัยช่วยวิเคราะห์ข้อมูล เช่น AI, Machine Learning, BI Tools เพื่อเพิ่มความรวดเร็วและแม่นยำในการประมวลผล

ทำไมองค์กรยุคใหม่ให้ความสำคัญกับ Data-Driven?

หลังจากโลกเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ด้วยการเกิดโรคระบาด Covid -19 ที่ส่งผลกระทบไปทั่วโลกทั้งในระดับบุคคลและองค์กร ท่ามกลางความท้าทายนี้ ธุรกิจและหน่วยงานต่าง ๆ ได้ตระหนักถึงบทบาทสำคัญของ ข้อมูล เทคโนโลยี และนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่ช่วยให้การดำเนินชีวิตและการทำงานเป็นไปอย่างราบรื่น แม้ในสถานการณ์ที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน

จากเดิมที่การทำธุรกิจเน้นการคาดการณ์และตัดสินใจบนผลกำไรเป็นหลัก แต่วันนี้ทุกอย่างเปลี่ยนไป หากขาดข้อมูลและเทคโนโลยี องค์กรอาจสูญเสียความสามารถในการเข้าใจลูกค้าและตอบสนองต่อความต้องการที่แท้จริง การตัดสินใจบนพื้นฐานของข้อมูลจึงไม่ใช่แค่เครื่องมือ แต่เป็น หัวใจสำคัญของการอยู่รอดและความสำเร็จ โดยประโยชน์ของการนำข้อมูลมาใช้กับองค์กรนั้นครอบคลุมในหลายมิติ ดังนี้

  •  ช่วยให้ตัดสินใจบนพื้นฐานของข้อเท็จจริง 

การใช้ข้อมูลช่วยให้องค์กรตัดสินใจอย่างมีประสิทธิภาพ โดยอิงจากข้อมูลเชิงลึกและข้อเท็จจริง แทนที่จะใช้สัญชาตญาณหรือการคาดเดา นอกจากนี้การวิเคราะห์ข้อมูลแบบเรียลไทม์ช่วยให้ผู้บริหารสามารถตอบสนองต่อความเปลี่ยนแปลงของตลาดได้ทันท่วงที ทำให้เกิดการวางแผนการตลาดที่ชาญฉลาดและสามารถตัดสินใจได้ว่าจะเลือกดำเนินการโดยใช้กลยุทธ์ใด

  • สร้างประสบการณ์ที่ดีขึ้นให้กับลูกค้า

องค์กรที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลจะสามารถเข้าใจลูกค้าได้ดี ผ่านการวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าจากรูปแบบพฤติกรรม ความชอบ และข้อเสนอแนะ ซึ่งจะช่วยให้เข้าใจความต้องการของลูกค้า และสามารถออกแบบสินค้า บริการ รวมถึงการวางกลยุทธ์ทางการตลาดที่ตอบโจทย์ความคาดหวังของลูกค้า ด้วยการมอบประสบการณ์เฉพาะบุคคล (Personalization) จนสามารถเพิ่มความพึงพอใจและรักษาลูกค้าไว้ได้เช่นเดียวกัน

  •  เพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน 

การใช้ข้อมูลช่วยปรับปรุงกระบวนการทำงานจะช่วยลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานด้านต่าง ๆ  ทั้งยังช่วยให้สามารถวัดผลการดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากองค์กรสามารถจัดการข้อมูลได้อย่างเป็นระบบ ทำให้การทำงานภายในองค์กรมีความราบรื่น สามารถใช้ประโยชน์จากข้อมูลที่มีอยู่มาดำเนินงานทางการตลาด และวัดผลได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

  • สร้างนวัตกรรมและการเติบโต 

การวิเคราะห์ข้อมูลช่วยให้มองเห็นโอกาสใหม่ ๆ ในตลาด เช่น แนวโน้มของอุตสาหกรรม พฤติกรรมผู้บริโภคที่กำลังเปลี่ยนแปลง หรือการใช้ข้อมูลมาสนับสนุนการทดลองเพื่อการพัฒนานวัตกรรมใหม่ ๆ ที่มีโอกาสประสบความสำเร็จสูง

  •  การคาดการณ์และวางแผนล่วงหน้า 

ข้อมูลช่วยให้องค์กรสามารถคาดการณ์ความเสี่ยง วิเคราะห์แนวโน้มตลาด และวางแผนกลยุทธ์ได้แม่นยำยิ่งขึ้น  สามารถคาดการณ์ความต้องการล่วงหน้าซึ่งการคาดการณ์ที่แม่นยำจะช่วยลดความสูญเสียและเพิ่มโอกาสในการทำกำไรได้มากยิ่งขึ้น

การผลักดันองค์กรให้เป็น Data-Driven Organization  

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าทุกวันนี้ธุรกิจและอุตสาหกรรมต่าง ๆ ล้วนขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี การใช้ข้อมูลช่วยให้องค์กรสามารถก้าวนำคู่แข่งได้ สำหรับองค์กรที่ไม่ปรับตัว ไม่สามารถนำข้อมูล และเทคโนโลยีต่าง ๆ มาใช้งานได้ อาจเสียโอกาสในการแข่งขัน เพราะขาดข้อมูลเชิงลึกที่จำเป็น ดังนั้นการเปลี่ยนองค์กรให้ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล จึงไม่ใช่เพียงแค่การนำเทคโนโลยีมาใช้ แต่เป็นการปรับเปลี่ยนวัฒนธรรมองค์กรและสร้างโครงสร้างที่รองรับการตัดสินใจบนพื้นฐานของข้อมูล และนี่คือแนวทางที่องค์กรสามารถนำไปใช้เพื่อก้าวสู่การเป็น Data-Driven Organization ได้สำเร็จ

1. สร้างวัฒนธรรม Data-Driven ในองค์กร

  • ปลูกฝังแนวคิด ให้พนักงานทุกระดับเข้าใจถึงความสำคัญของข้อมูลและประโยชน์ที่จะได้รับ
  • ผู้นำต้องเป็นตัวอย่าง ผู้บริหารต้องแสดงให้เห็นถึงการใช้ข้อมูลในการตัดสินใจ เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือและกระตุ้นให้ทีมงานปฏิบัติตาม
  • ฝึกอบรมพนักงาน ให้สามารถเข้าใจและใช้งานข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ

2. รวบรวมและจัดการข้อมูลอย่างเป็นระบบ

  • รวมศูนย์ข้อมูล (Data Centralization) จัดเก็บข้อมูลทั้งหมดไว้ในแพลตฟอร์มหรือระบบเดียวที่เข้าถึงง่าย เช่น Data Warehouse หรือ Data Lake
  • ปรับปรุงคุณภาพข้อมูล โดยข้อมูลต้องมีความถูกต้อง ครบถ้วน และสามารถนำไปใช้ได้ทันที
  • มีนโยบายการจัดการและรักษาความปลอดภัยของข้อมูลเพื่อป้องกันการรั่วไหล

3. ใช้เครื่องมือและเทคโนโลยีที่เหมาะสม

  • เลือกใช้ซอฟต์แวร์วิเคราะห์ข้อมูล เช่น BI Tools (Power BI, Tableau), AI และ Machine Learning เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลอย่างแม่นยำ
  • ใช้ Automation เพื่อลดความซับซ้อนในการจัดการข้อมูล
  • ใช้เครื่องมือการจัดการข้อมูลขนาดใหญ่ เช่น Hadoop หรือ Spark สำหรับองค์กรที่มีข้อมูลจำนวนมหาศาล

4. ส่งเสริมการใช้ Data-Driven Insights ในการตัดสินใจ

  • สร้าง Dashboard หรือรายงานที่นำเสนอข้อมูลให้เข้าใจง่าย เพื่อให้ทุกทีมสามารถใช้ข้อมูลได้ทันที
  • มีการตั้งเป้าหมายที่วัดผลได้ โดยใช้ข้อมูลในการกำหนดเป้าหมายและวัดผลลัพธ์อย่างชัดเจน
  • กระตุ้นให้ทุกคนในองค์กรหันมาใช้ข้อมูลในการทำงาน เช่น การสร้างระบบให้รางวัลกับทีมงานที่ตัดสินใจหรือวางแผนโดยอิงข้อมูล

5. สร้างทีมงานและโครงสร้างที่สนับสนุน Data-Driven

  • แต่งตั้ง Chief Data Officer (CDO) ให้มีผู้นำที่ดูแลด้านข้อมูลโดยเฉพาะ
  • จัดตั้งทีม Data Analytics สร้างทีมเฉพาะกิจที่ทำหน้าที่รวบรวม วิเคราะห์ และแปลความหมายของข้อมูล
  • สนับสนุนการทำงานข้ามแผนก ให้ทีมต่าง ๆ ภายในองค์กรสามารถทำงานร่วมกันโดยใช้ข้อมูลเป็นตัวกลาง

6. ประเมินผลและปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง

  • ปรับปรุงกระบวนการ อัปเดตเครื่องมือและกระบวนการอย่างสม่ำเสมอเพื่อรองรับข้อมูลที่เพิ่มขึ้น
  • วัดผลการใช้งานข้อมูล โดยใช้ตัวชี้วัด สร้าง Dashboard หรือ Report เพื่อวิเคราะห์และประเมินประสิทธิภาพการทำงานอย่างต่อเนื่อง และให้ทุกทีมเข้าถึงข้อมูล ตัวเลขในส่วนนี้ได้ง่าย เพื่อให้ทั้งองค์กรไปสู่เป้าหมายใหญ่ในภาพรวมได้ในที่สุด


การผลักดันองค์กรให้เป็น Data-Driven Organization ต้องอาศัยทั้งการเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยี การสร้างวัฒนธรรมองค์กร และการสนับสนุนจากผู้นำในการวางโครงสร้างที่ชัดเจน รวมถึงส่งเสริมการใช้ข้อมูลในทุกกระบวนการ จะช่วยให้องค์กรสามารถตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงและเติบโตได้อย่างยั่งยืนในยุคดิจิทัล

ตัวอย่างองค์กรที่ประสบความสำเร็จด้วยแนวคิด Data-Driven

Amazon

Amazon เป็นหนึ่งในตัวอย่างที่โดดเด่นของการใช้ข้อมูลเพื่อสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน ด้วยการนำข้อมูลพฤติกรรมผู้บริโภคมาวิเคราะห์ เช่น

  • แนะนำสินค้าที่ตรงใจลูกค้าโดยใช้ Machine Learning ฟีเจอร์การแนะนำสินค้าให้กับผู้ใช้งานตามสิ่งที่พวกเขาเหล่านั้นสนใจ (Recommendation Engine) 
  • ปรับแต่งประสบการณ์การใช้งานบนเว็บไซต์และแอปพลิเคชันให้เหมาะกับลูกค้าแต่ละคน (Personalization)
  • เพิ่มประสิทธิภาพของซัพพลายเชน ด้วยการคาดการณ์ความต้องการสินค้าล่วงหน้า

Netflix

Netflix ใช้ข้อมูลเชิงลึกเพื่อเข้าใจพฤติกรรมการรับชมของผู้ใช้ เช่น

  • แนะนำคอนเทนต์ที่ตรงกับความสนใจของผู้ชมแต่ละคน โดยวิเคราะห์จากพฤติกรรมการใช้งานแอปพลิเคชั่น ไม่ว่าจะเป็น การจัดอันดับวีดีโอส่วนตัว (Personalised Video Ranking:PVR) รายการที่กำลังเป็นที่นิยมในขณะนั้น (Trending Now Ranker) การจัดอันเพื่อชมต่อ (Continue Watching Ranker) และ อันดับรายการที่คล้ายคลึง (Video-Video Similarity Ranker)
  • พัฒนาซีรีส์และภาพยนตร์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของตลาด เช่น การสร้างซีรีส์ยอดฮิตอย่าง “House of Cards” ที่มาจากการวิเคราะห์ข้อมูลการรับชม
  • วางกลยุทธ์การตลาดที่เฉพาะเจาะจงสำหรับกลุ่มเป้าหมาย

Google

Google ใช้ข้อมูลเป็นหัวใจสำคัญในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการ เช่น

  • การปรับปรุงอัลกอริทึมของ Google Search เพื่อให้ผลการค้นหาตรงกับความต้องการของผู้ใช้งาน
  • การพัฒนาโฆษณาแบบเจาะจงกลุ่มเป้าหมาย (Targeted Ads) ผ่าน Google Ads
  • การนำข้อมูลมาพัฒนานวัตกรรมใหม่ ๆ เช่น Google Maps ที่วิเคราะห์ข้อมูลการจราจรแบบเรียลไทม์

Starbucks

Starbucks ใช้ข้อมูลในการวางแผนธุรกิจและปรับปรุงประสบการณ์ของลูกค้า เช่น

  • การเลือกทำเลร้านค้า โดยวิเคราะห์ข้อมูลประชากร พฤติกรรมผู้บริโภค และการสัญจร
  • การออกแบบโปรแกรม Starbucks Rewards เพื่อมอบข้อเสนอที่ตรงกับความชอบของลูกค้าแต่ละคน
  • การคาดการณ์ความต้องการของลูกค้าในแต่ละฤดูกาล เพื่อปรับกลยุทธ์การขาย

Tesla

Tesla ใช้ข้อมูลจากรถยนต์ทุกคันที่เชื่อมต่อกับระบบคลาวด์ เพื่อ

  • พัฒนาความสามารถของระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ (Autopilot)
  • วิเคราะห์พฤติกรรมการขับขี่ของผู้ใช้งาน เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพของแบตเตอรี่และระบบต่าง ๆ
  • ให้บริการซอฟต์แวร์อัปเดตแบบเรียลไทม์ที่ช่วยเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ ๆ โดยไม่ต้องนำรถเข้าศูนย์

Spotify  

อีกหนึ่งแคมเปญที่มีชื่อเสียงอย่างมากของ Spotify ที่รู้จักกันในนาม “Spotify Wrapped” ถือเป็นแคมเปญการตลาดสุดโด่งดังที่เริ่มตั้งแต่ปี 2015 

  • มีการนำข้อมูลของลูกค้าในการฟังเพลงตลอดทั้งปี มาทำเป็น “บันทึกการฟังเพลงประจำปี” ของแต่ละคน 
  • สามารถแชร์ข้อมูลการฟังเพลงไปในโลกโซเชียลมีเดียอย่างแพร่หลาย 
  • User ทุกคนสามารถดู Data สรุปพฤติกรรมการฟังเพลงของตนเองในแต่ละปี 

จากตัวอย่างที่ยกมา เราจะเห็นได้ว่า Data-Driven คือ แนวคิดสำคัญที่องค์กรชั้นนำระดับโลกนำมาปรับใช้ให้เข้ากับบริบททางธุรกิจ เพราะเมื่อเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทในชีวิต ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของพฤติกรรมผู้บริโภค “การขับเคลื่อนธุรกิจด้วยข้อมูล” นอกจากจะช่วยให้องค์กรดึงศักยภาพของข้อมูลออกมาใช้ได้อย่างเต็มที่แล้ว ยังช่วยให้เราเข้าใจในพฤติกรรมของผู้บริโภคมากขึ้น รวมถึงช่วยให้แต่ละฝ่ายตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยมีข้อมูลอ้างอิงที่เป็นรูปธรรม และยังช่วยพัฒนาสินค้าและบริการให้ดียิ่งขึ้น ไปจนถึงช่วยให้การบริหารองค์กรมีประสิทธิภาพมากขึ้นอีกด้วย        

อ้างอิง : 

https://www.integrate.io/blog/data-driven-organizations
https://www.tableau.com/learn/articles/how-to-build-a-data-driven-organization

แบ่งปันบทความ

กลุ่มเนื้อหา

แท็กยอดนิยม

แจ้งเรื่องที่อยากอ่าน

คุณสามารถแจ้งเรื่องที่อยากอ่านให้เราทราบได้ !
และเราจะนำไปพัฒนาบทความให้มีเนื้อหาที่น่าสนใจมากขึ้น

PDPA Icon

We use cookies to optimize your browsing experience and improve our website’s performance. Learn more at our Privacy Policy and adjust your cookie settings at Settings

Privacy Preferences

You can choose your cookie settings by turning on/off each type of cookie as needed, except for necessary cookies.

Accept all
Manage Consent Preferences
  • Strictly Necessary Cookies
    Always Active

    This type of cookie is essential for providing services on the website of the Personal Data Protection Committee Office, allowing you to access various parts of the site. It also helps remember information you have previously provided through the website. Disabling this type of cookie will result in your inability to use key services of the Personal Data Protection Committee Office that require cookies to function.
    Cookies Details

  • Performance Cookies

    This type of cookie helps the Big Data Institute (Public Organization) understand user interactions with its website services, including which pages or areas of the site are most popular, as well as analyze other related data. The Big Data Institute (Public Organization) also uses this information to improve website performance and gain a better understanding of user behavior. Although the data collected by these cookies is non-identifiable and used solely for statistical analysis, disabling them will prevent the Big Data Institute (Public Organization) from knowing the number of website visitors and from evaluating the quality of its services.

  • Functional Cookies

    This type of cookie enables the Big Data Institute (Public Organization)’s website to remember the choices you have made and deliver enhanced features and content tailored to your usage. For example, it can remember your username or changes you have made to font sizes or other customizable settings on the page. Disabling these cookies may result in the website not functioning properly.

  • Targeting Cookies

    "This type of cookie helps the Big Data Institute (Public Organization) understand user interactions with its website services, including which pages or areas of the site are most popular, as well as analyze other related data. The Big Data Institute (Public Organization) also uses this information to improve website performance and gain a better understanding of user behavior. Although the data collected by these cookies is non-identifiable and used solely for statistical analysis, disabling them will prevent the Big Data Institute (Public Organization) from knowing the number of website visitors and from evaluating the quality of its services.

Save settings
This site is registered on wpml.org as a development site. Switch to a production site key to remove this banner.