การใช้ Wireless signal ร่วมกับ AI เพื่อตรวจจับการเคลื่อนไหวของผู้ติดเชื้อ COVID-19 ที่บ้าน

การใช้ Wireless signal ร่วมกับ AI เพื่อตรวจจับการเคลื่อนไหวของผู้ติดเชื้อ COVID-19 ที่บ้าน

22 May 2020

ในวันที่การระบาดของไวรัสโคโรน่า (Corona Virus Disease 2019) หรือ COVID-19 ยังคงแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่อง แต่ละโรงพยาบาลก็พยายามที่จะป้องกัน และควบคุมการแพร่ระบาดอันเนื่องมาจากการรวมตัวกันของกลุ่มคนที่หนาแน่น ซึ่งเป็นเหตุที่ทำให้ไวรัสโคโรน่ามีโอกาสในการแพร่กระจายจากผู้ป่วยไปยังบุคลากรทางการแพทย์

บุคลากรทางการแพทย์จำนวนมากติดเชื้อจากการปฏิบัติงาน

โดยข้อมูลจากกรมควบคุมโรคประเทศสหรัฐอเมริกา (CDC: Centers for Disease Control) รายงานว่า มีผู้ปฏิบัติงานด้านสาธารณสุขได้รับเชื้อจากการปฏิบัติงานทำให้เกิดผลตั้งแต่มีไข้เพียงเล็กน้อยจนถึงขั้นเสียชีวิต ในประเทศอิหร่านมีบุคลากรทางการแพทย์ติดเชื้อกว่าหมื่นราย สิ่งนี้ทำให้ประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกต่างจับมือกันเพื่อต่อสู้กับ COVID-19 โดยการนำเอาเทคโนโลยีต่าง ๆ มาประยุกต์ใช้เพื่อช่วยป้องกันการแพร่ระบาด และเป็นกำลังเสริมให้กับเจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุขต่อสู้กับวิกฤตการณ์ในครั้งนี้

ถ้ากล่าวถึงจำนวนผู้ป่วยติดเชื้อ COVID-19 ก็ยังมีผู้คนจำนวนไม่น้อยที่มีลักษณะอาการที่เข้าข่ายติดเชื้อและมีความจำเป็นต้องกักตัวที่บ้านเป็นเวลา 14 วันเพื่อรอสังเกตุอาการ แต่การที่ต้องแยกตัวให้ห่างจากคนในบ้านทำให้การติดตามพฤติกรรมนั้นทำได้ยากขึ้น ทั้งในแง่ของการดูแลและการติดตามอาการ ด้วยเหตุผลที่กล่าวมาข้างต้น ทีมงานจากห้องปฏิบัติการ Computer Science and Artificial Intelligence Laboratory (CSAIL) ของ MIT จึงได้พัฒนาระบบติดตามไร้สายที่ให้แพทย์สามารถติดตามผู้ป่วยในระยะไกลได้ เพื่อรักษาระยะห่างและป้องกันการสูญเสียบุคคลากรทางการแพทย์


Computer Science and Artificial Intelligence Laboratory (CSAIL) จาก MIT

เทคโนโลยีที่ใช้ AI เข้ามาช่วยติดตามอาการผู้ป่วย

MIT CSAIL พัฒนาอุปกรณ์กล่องอัจฉริยะไร้สายเพื่อมาช่วยติดตามการเคลื่อนไหวของผู้ป่วยติดเชื้อที่อยู่ที่บ้าน ภาพจาก MIT CSAIL

ทีมงาน CSAIL ได้พัฒนาอุปกรณ์ที่เรียกว่าเจ้า Emerald ซึ่งเป็นอุปกรณ์กล่องอัจฉริยะไร้สายเพื่อมาช่วยติดตามการเคลื่อนไหวของผู้ป่วยติดเชื้อที่อยู่ที่บ้าน ซึ่งอุปกรณ์นี้มีหน้าตาคล้ายกับกล่อง Wi-Fi router ที่ติดอยู่กับผนังบ้าน โดยอุปกรณ์จะส่งสัญญาณไร้สายออกมาซึ่งจะไปสะท้อนกับผู้ป่วย และใช้ระบบ AI ในการวิเคราะห์รูปแบบเหล่านั้นแล้วอนุมานถึงอัตราการหายใจ รูปแบบการนอน และการเคลื่อนไหวของคนนั้นได้ ซึ่งเจ้า Emerald นี้มีความละเอียดอ่อนเพียงพอที่จะตรวจจับการเคลื่อนไหวบริเวณหน้าอกและให้กลายเป็นอัตราการหายใจได้ โดยสามารถแยกแยะได้พร้อมกันหลายคน รวมถึงสามารถแยกแยะความแตกต่างระหว่างบุคคล ทำให้รู้ว่าใครเป็นใคร มากกว่านั้นยังสามารถบอกได้ว่าผู้ป่วยติดเชื้อจะเริ่มมีปัญหาการหายใจเมื่อไหร่  และเมื่อเรานำอุปกรณ์นี้ไปติดในห้องผู้ป่วยติดเชื้อก็จะสามารถรู้ข้อมูลได้ว่า ตอนนี้ผู้ป่วยติดเชื้อเดินเร็วหรือเดินช้า มีอัตราการหายใจในลักษณะใด และสามารถบอกระดับความรุนแรงของอาการได้ ว่าอาการดีขึ้นหรือแย่ลง จากการเก็บข้อมูลตลอดเวลาแบบ Real-Time และแพทย์ที่ทำการรักษาก็จะสามารถวินิจฉัยจากระยะไกล ทำให้บุคลากรทางการแพทย์ลดความเสี่ยงในการติดเชื้อได้เพราะไม่ต้องสัมผัสกับผู้ป่วยโดยตรง

ล่าสุดได้มีการนำเอาเจ้า Emerald มาทดลองใช้เป็นอุปกรณ์ช่วยเหลือในชีวิตประจำวัน โดยใช้เพื่อติดตามผู้ป่วยติดเชื้อ COVID-19 จากระยะไกลได้ ผลจากการตรวจสอบพบว่า เมื่อผู้ป่วยติดเชื้อถูกรักษาให้หายดีแล้ว ระบบสามารถตรวจจับได้ว่าอัตราการหายใจได้ลดลงจาก 23 เป็น 18 ครั้งต่อนาที การนอนดีขึ้น และสามารถเดินได้เร็วขึ้นในห้องอพาร์ทเมนท์หลังจากที่ผู้ติดเชื้อหายจากอาการ

ดังนั้นเจ้า Emerald จึงเป็นตัวช่วยให้ผู้ป่วยที่ไม่ได้มีอาการหนักมากให้สามารถอยู่ที่บ้านได้ โดยยังคงอยู่ภายใต้การดูแลของหน่วยงานสาธารณสุข ซึ่งอนาคต Emerald อาจจะใช้เพื่อติดตามในกรณีอื่น ๆ ได้อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น โรคกังวล นอนไม่หลับ หรือหยุดหายใจขณะหลับ ก็อาจจะกระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่จะสามารถดูแลรักษาระยะไกลด้วยเทคโนโลยีได้ต่อไปในอนาคต

การติดตามอาการของผู้ติดเชื้อ COVID-19 สามารถทำได้โดยไม่ต้องสัมผัสกับผู้ป่วยโดยตรง

จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 ประเทศไทย ณ ปัจจุบันนี้ นับได้ว่ายังมีผู้ป่วยติดเชื้อที่ไม่มากนัก และในขณะเดียวกันจำนวนผู้ป่วยก็เริ่มที่จะลดลงอย่างต่อเนื่อง ทำให้โรงพยาบาลในประเทศไทยสามารถรองรับผู้ป่วยได้ทั้งหมด พร้อมทั้งยังมีอุปกรณ์ชุดป้องกัน PPE (PPE: Personal Protective Equipment ) ให้คณะแพทย์และบุคลาการทางการแพทย์ผู้ที่ต้องดูแลผู้ป่วยติดเชื้อซึ่งมีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อไวรัสอยู่ตลอดเวลาได้ใช้อย่างเพียงพอแล้วนั้น แต่อย่างไรก็ตามเราต้องอย่าลืมตระหนักถึงว่าถ้าวันหนึ่ง เกิดเหตุการณ์ที่ผู้ป่วยติดเชื้อพุ่งทะยานสูงขึ้นอย่างรวดเร็วและต่อเนื่องแบบประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งโรงพยาบาลไม่สามารถรองรับผู้ป่วยติดเชื้อได้อย่างเพียงพอ เทคโนโลยีที่ได้กล่าวมาข้างต้นอาจจะเป็นทางออกที่เป็นประโยชน์ในด้านเฝ้าระวังและการติดตามอาการผู้ป่วยว่าเข้าขั้นอาการหนักและย่ำแย่ลงหรือไม่ในระหว่างที่กักตัวอยู่บ้านเพื่อป้องกันการติดต่อเชื้อจากคนไข้สู่แพทย์ และเพื่อลดการเกิดโศกนาฏกรรมที่ผู้ป่วยติดเชื้อพักตัวอยู่บ้านแล้วอาการเกิดย่ำแย่ลงอย่างมาก เป็นต้น

Project Manager & Data Scientist at Big Data Institute (Public Organization), BDI

แบ่งปันบทความ

กลุ่มเนื้อหา

แท็กยอดนิยม

แจ้งเรื่องที่อยากอ่าน

คุณสามารถแจ้งเรื่องที่อยากอ่านให้เราทราบได้ !
และเราจะนำไปพัฒนาบทความให้มีเนื้อหาที่น่าสนใจมากขึ้น

PDPA Icon

We use cookies to optimize your browsing experience and improve our website’s performance. Learn more at our Privacy Policy and adjust your cookie settings at Settings

Privacy Preferences

You can choose your cookie settings by turning on/off each type of cookie as needed, except for necessary cookies.

Accept all
Manage Consent Preferences
  • Strictly Necessary Cookies
    Always Active

    This type of cookie is essential for providing services on the website of the Personal Data Protection Committee Office, allowing you to access various parts of the site. It also helps remember information you have previously provided through the website. Disabling this type of cookie will result in your inability to use key services of the Personal Data Protection Committee Office that require cookies to function.
    Cookies Details

  • Performance Cookies

    This type of cookie helps the Big Data Institute (Public Organization) understand user interactions with its website services, including which pages or areas of the site are most popular, as well as analyze other related data. The Big Data Institute (Public Organization) also uses this information to improve website performance and gain a better understanding of user behavior. Although the data collected by these cookies is non-identifiable and used solely for statistical analysis, disabling them will prevent the Big Data Institute (Public Organization) from knowing the number of website visitors and from evaluating the quality of its services.

  • Functional Cookies

    This type of cookie enables the Big Data Institute (Public Organization)’s website to remember the choices you have made and deliver enhanced features and content tailored to your usage. For example, it can remember your username or changes you have made to font sizes or other customizable settings on the page. Disabling these cookies may result in the website not functioning properly.

  • Targeting Cookies

    "This type of cookie helps the Big Data Institute (Public Organization) understand user interactions with its website services, including which pages or areas of the site are most popular, as well as analyze other related data. The Big Data Institute (Public Organization) also uses this information to improve website performance and gain a better understanding of user behavior. Although the data collected by these cookies is non-identifiable and used solely for statistical analysis, disabling them will prevent the Big Data Institute (Public Organization) from knowing the number of website visitors and from evaluating the quality of its services.

Save settings
This site is registered on wpml.org as a development site. Switch to a production site key to remove this banner.