AI…สามารถช่วยธุรกิจได้อย่างไร…ในภาวะถดถอย

AI…สามารถช่วยธุรกิจได้อย่างไร…ในภาวะถดถอย

26 ตุลาคม 2563

ปัจจุบันเห็นได้ชัดว่าการระบาดของโรคโควิด19 (COVID-19) ทำให้เกิดการชะลอตัวของการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจไปทั่วโลก  ล่าสุดในวันที่ 31 มีนาคม โกลด์แมน แซคส์  (Goldman Sachs) วาณิชธนกิจรายใหญ่ของสหรัฐอเมริกา ได้คาดการณ์ว่าในปีนี้เศรษฐกิจโลกจะหดตัวถึง 1.8% [1] คิดเป็นสองเท่าตัวของการหดตัวในปี 2552 ที่เกิดวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ หรือ วิกฤตสินเชื่อที่อยู่อาศัยซับไพร์ม (Subprime mortgage crisis) ซึ่งในตอนนั้น บริษัทจำเป็นต้องพิจารณาเรื่องการลดการลงทุนเพื่อให้ธุรกิจอยู่รอด อย่างไรก็ตามด้วยการเข้ามาของเทคโนโลยีด้านปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence: AI) [2] ทางออกหนึ่งของบริษัทคือการเลือกใช้ AI solution กับโอกาสทางธุรกิจอย่างเหมาะสม ซึ่งจะทำให้บริษัทของคุณสามารถกลายเป็นผู้ชนะในตลาดที่แข่งขันภายใต้ภาวะเศรษฐกิจถดถอยนี้

AI สามารถช่วยการจัดการธุรกิจได้มากใน 3 ประเด็นคือ การลดต้นทุน การเพิ่มประสิทธิภาพของการทำงานด้านการเงิน และการหาแหล่งรายได้ใหม่

การลดต้นทุน

  • ด้านงานทะเบียน
    โดยใช้ AI ในกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับงานทะเบียน เช่น ทำให้มั่นใจในความพร้อมใช้งานของประวัติทางการรักษาพยาบาลของผู้รับบริการ โดยใช้ AI รวบรวม จัดเก็บ จัดรูปแบบใหม่ (reformat) และติดตามข้อมูลประวัติทางการรักษาพยาบาล [3] การลดภาระงานของเจ้าหน้าที่ด้านการทะเบียนลงนั้นไม่เพียงเพิ่มประสิทธิภาพแต่ยังสามารถลดความผิดพลาดได้อย่างมาก เนื่องจากความผิดพลาดสามารถก่อให้เกิดค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นจากความจำเป็นที่ต้องใช้เจ้าหน้าที่เพื่อตรวจสอบการทำงานอีกครั้ง (re-do work)
  • ด้านการบริการลูกค้า
    โดยใช้หุ่นยนตร์สนทนา (AI Chatbot) เนื่องจาก Chatbot สามารถทำงานได้ตลอด 24 ชั่วโมงต่อวันและ 7 วันต่อสัปดาห์ และยังมีค่าใช้จ่ายที่น้อยกว่าการจ้างพนักงานตอบรับ โดย Chatbot Magazine กล่าวว่าด้วยการนำหุ่นยนตร์สนทนามาใช้ธุรกิจสามารถลดต้นทุนการให้บริการลูกค้าถึง 30% [4] อีกทั้งสามารถเพิ่มความพึงพอใจของลูกค้าได้อีกด้วย
  • ด้านการบำรุงรักษาเครื่องจักร
    โดยใช้ AI ในการดำเนินการบำรุงรักษาเชิงพยากรณ์ (Predictive maintenance) เดิมหากไม่มี AI การตัดสินใจบำรุงรักษาเครื่องจักรมักจะใช้การวิเคราะห์ค่าเฉลี่ยของอายุการใช้เครื่องจักรก่อนการเสียหาย (Mean Time to Failure) เพื่อประมาณว่าเมื่อใดที่เครื่องจักรต้องมีการเปลี่ยนชิ้นส่วน แต่เมื่อมี AI ที่สามารถรายงานสิ่งที่เกิดขึ้นกับเครื่องจักร จะช่วยระบุได้ว่าชิ้นส่วนใดที่มีแนวโน้มที่จะเสียในไม่ช้า เพื่อดำเนินการเปลี่ยนเฉพาะชิ้นส่วนที่ต้องการการทดแทนเท่านั้น
AI สามารถช่วยทำนายได้ว่าเครื่องจักรจะเสียหายเมื่อไหร่

การเพิ่มประสิทธิภาพของการดำเนินการทางการเงิน

  • ในการจัดการแบบเรียลไทม์ (Real-time)
    AI ช่วยการทำงานได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการพยากรณ์ความต้องการ การจัดการสินค้าคงคลังและลูกหนี้การค้า ทำให้บริษัทสามารถปรับตัวกับสภาพแวดล้อมหรือสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็วและคาดการณ์ว่าควรจะจัดสรรงบไปที่ไหนได้ดีกว่าการใช้แค่ข้อมูลสถิติในอดีต
  • ในการตัดสินใจเลือกปิดร้านสาขา
    เมื่อเกิดวิกฤต หากปราศจาก AI การตัดสินใจนี้จะขึ้นอยู่กับผลประกอบการของแต่ละสาขาและการวิเคราะห์ประชากร (Demographic analysis) แต่ AI สามารถช่วยให้เกิดการตัดสินใจที่ชาญฉลาดยิ่งขึ้น ด้วยการพยากรณ์สิ่งที่จะเกิดขึ้นกับลูกค้าในพื้นที่ที่ให้บริการโดยสาขานั้น ว่าลูกค้าเหล่านี้จะเปลี่ยนไปซื้อสินค้าที่ร้านค้าคู่แข่งซึ่งตั้งอยู่ในทำเลที่สะดวกกว่า หรือจะเปลี่ยนไปซื้อสินค้าออนไลน์หรือจะยอมเดินทางไปไกลอีกนิดเพื่อจะรักษาความภักดีต่อร้านนั้น การพยากรณ์นี้จะช่วยเพิ่มความมั่นใจในการกระบวนการตัดสินใจปิดร้านสาขา
  • ในการจัดการกับหนี้เสีย
    ภายใต้ภาวะถดถอยเช่นนี้เป็นปกติที่จะมีหนี้เสีย (Non-Performing Loan) มากขึ้น ทั้งจากลูกค้าชำระเงินล่าช้าหรือลูกหนี้การค้าเลิกกิจการ  AI สามารถประเมินข้อมูลลูกค้าทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับความน่าจะเป็นที่ลูกค้าจะทำให้เกิดหนี้เสีย ได้แก่ การจัดอันดับข้อมูลเครดิต ประเภทอุตสาหกรรม ประวัติการชำระเงิน ภาระหนี้ การจ้างงาน และการเลิกจ้าง รวมถึงข้อมูลทางภูมิศาสตร์ และข้อมูลอื่น ๆ ที่ชี้ถึงความเป็นไปได้ของบริษัทลูกค้าที่จะไม่ชำระหนี้ ด้วยข้อมูลเหล่านี้ระบบที่ใช้ AI สามารถให้คำแนะนำเกี่ยวกับเงื่อนไขการชำระเงินสำหรับลูกค้าได้
หนี้เสีย เป็นปัญหาใหญ่ที่สถาบันการเงินต้องเผชิญโดยเฉพาะในสภาวะถดถอย AI สามารถช่วยกรองลูกค้าเพื่อลดหนี้เสียได้

การหาแหล่งรายได้ใหม่

  • ด้วยการส่งเสริมการขาย AI
    สามารถสร้างแบบจำลองพฤติกรรมการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่คาดว่าจะเกิดขึ้นเมื่อมีการส่งเสริมการขาย (promotion) แบบใหม่ เพื่อการส่งเสริมการขายแบบเรียลไทม์ เริ่มต้นจากข้อมูลการขายที่เกิดขึ้นจากการส่งเสริมการขายในอดีต AI สามารถจำลองพฤติกรรมของผู้ซื้อด้วยการเพิ่มตัวแปรใหม่ เช่น ระเบียบข้อบังคับของรัฐเกี่ยวกับการกักตัวในบ้าน (shelter-in-place) การเปิดและปิดของร้านค้าปลีก โรงเรียน การรวมตัวทางการเมือง ความน่าจะเป็นของการระบาดโควิด19 เป็นต้น และ AI ยังสามารถเก็บข้อมูลการส่งเสริมการขายที่ประสบความสำเร็จในพื้นที่หนึ่งแล้วนำไปสร้างแบบจำลองที่คล้ายคลึงกันเพื่อแนะนำการส่งเสริมการขายที่เหมือนกันกับอีกพื้นที่หนึ่ง โดยใช้พื้นฐานจากการขายแบบเรียลไทม์ที่เกิดขึ้นจากการส่งเสริมการขายที่ประสบความสำเร็จนั้น


  • ด้วยการเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาด
    ในตลาดที่มีการแข่งขันสูง เช่น ตลาดมันฝรั่งทอดกรอบ บริษัทจึงต้องพยายามชนะใจผู้บริโภคด้วยการเสนอทางเลือกที่หลากหลาย  AI สามารถศึกษาคลังข้อมูลขนาดใหญ่และระบุรูปแบบของข้อมูลที่มนุษย์ไม่สามารถเห็นได้ โดยการศึกษาข้อมูลทางประชากร ความพึงพอใจของผู้บริโภค อายุ เชื้อชาติ เพศ รายได้ เป็นต้น และสิ่งที่ AI ค้นพบคือ ชนพื้นเมืองอเมริกันชอบอาหารรสแกงกะหรี่ ระบบ AI จึงแนะนำว่าบริษัทควรเสนอขายขนมรสที่มีขายเฉพาะในประเทศอินเดียคือ รสแกงกะหรี่ ที่เรียกว่า Kurkure ให้กับชนพื้นเมืองอเมริกันในเมืองฟริสโก รัฐเท็กซัส ซึ่งเป็นเมืองที่มีประชากรน้อยกว่าสองแสนคนโดยส่วนใหญ่เป็นชนพื้นเมืองอเมริกัน จะเห็นได้ว่า AI สามารถค้นพบตลาดขนาดย่อย (Micro-market) และแนะนำผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมสำหรับผู้บริโภคในตลาดกลุ่มนั้น ดังนั้นคำถามที่บริษัทต้องการคือยังมีตลาดขนาดย่อยอีกกี่แห่งในตลาดของผลิตภัณฑ์ที่บริษัทให้บริการ
ขนมรสแกงกะหรี่ซึ่งปกติจำหน่ายในอินเดีย แต่ AI บอกว่าควรแนะนำผลิตภัณฑ์แบบนี้ในให้กับชนพื้นเมืองอเมริกัน (ภาพจาก amazon.com)

ตัวอย่างข้างต้นแสดงเห็นว่า AI มีความฉลาด และฉลาดมากขึ้นทุกวัน หากบริษัทของคุณพึ่งพามนุษย์ในงานที่ AI สามารถทำได้ดีกว่า ขณะที่บริษัทคู่แข่งพึ่งพา AI นั้นจะทำให้บริษัทของคุณไม่มีวันตามคู่แข่งได้ทัน ดังนั้นคุณต้องพัฒนาแผนการออกจากภาวะถดถอยนั้นด้วยการเตรียมพร้อมสำหรับการแข่งขัน เพราะบริษัทที่ใช้ AI จะเป็นผู้ชนะและอีกหลายบริษัทที่ไม่ได้ใช้ AI จะกลายเป็นผู้แพ้ในเกมส์การแข่งขัน

ที่มา: https://www.forbes.com/sites/glenngow/2020/07/19/how-ai-can-help-in-a-recession/#5e4d8a0223c1

[1] https://novatiosolutions.com/10-common-applications-artificial-intelligence-healthcare/

[2] https://www.ibm.com/blogs/watson/2017/10/how-chatbots-reduce-customer-service-costs-by-30-percent/

[3] https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/874542

[4] https://thenextweb.com/neural/2020/06/26/what-you-should-know-about-investing-in-ai-during-economic-downturn/

แบ่งปันบทความ

กลุ่มเนื้อหา

แท็กยอดนิยม

แจ้งเรื่องที่อยากอ่าน

คุณสามารถแจ้งเรื่องที่อยากอ่านให้เราทราบได้ !
และเราจะนำไปพัฒนาบทความให้มีเนื้อหาที่น่าสนใจมากขึ้น

ไอคอน PDPA

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ “นโยบายคุ้กกี้” และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ “ตั้งค่า”

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่มีความจำเป็น (Strictly Necessary Cookies)
    เปิดใช้งานตลอด

    คุกกี้ประเภทนี้มีความจำเป็นต่อการให้บริการเว็บไซต์ของ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อให้ท่านสามารถเข้าใช้งานในส่วนต่าง ๆ ของเว็บไซต์ได้ รวมถึงช่วยจดจำข้อมูลที่ท่านเคยให้ไว้ผ่านเว็บไซต์ การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะส่งผลให้ท่านไม่สามารถใช้บริการในสาระสำคัญของ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งจำเป็นต้องเรียกใช้คุกกี้ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์และประเมินผลการใช้งาน (Performance Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้ช่วยให้ BDI ทราบถึงการปฏิสัมพันธ์ของผู้ใช้งานในการใช้บริการเว็บไซต์ของ BDI รวมถึงหน้าเพจหรือพื้นที่ใดของเว็บไซต์ที่ได้รับความนิยม ตลอดจนการวิเคราะห์ข้อมูลด้านอื่น ๆ BDI ยังใช้ข้อมูลนี้เพื่อการปรับปรุงการทำงานของเว็บไซต์ และเพื่อเข้าใจพฤติกรรมของผู้ใช้งานมากขึ้น ถึงแม้ว่า ข้อมูลที่คุกกี้นี้เก็บรวบรวมจะเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้ และนำมาใช้วิเคราะห์ทางสถิติเท่านั้น การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะส่งผลให้ BDI ไม่สามารถทราบปริมาณผู้เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ และไม่สามารถประเมินคุณภาพการให้บริการได้

  • คุกกี้เพื่อการใช้งานเว็บไซต์ (Functional Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้จะช่วยให้เว็บไซต์ของ BDI จดจำตัวเลือกต่าง ๆ ที่ท่านได้ตั้งค่าไว้และช่วยให้เว็บไซต์ส่งมอบคุณสมบัติและเนื้อหาเพิ่มเติมให้ตรงกับการใช้งานของท่านได้ เช่น ช่วยจดจำชื่อบัญชีผู้ใช้งานของท่าน หรือจดจำการเปลี่ยนแปลงการตั้งค่าขนาดฟอนต์หรือการตั้งค่าต่าง ๆ ของหน้าเพจซึ่งท่านสามารถปรับแต่งได้ การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้อาจส่งผลให้เว็บไซต์ไม่สามารถทำงานได้อย่างสมบูรณ์

  • คุกกี้เพื่อการโฆษณาไปยังกลุ่มเป้าหมาย (Targeting Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้เป็นคุกกี้ที่เกิดจากการเชื่อมโยงเว็บไซต์ของบุคคลที่สาม ซึ่งเก็บข้อมูลการเข้าใช้งานและเว็บไซต์ที่ท่านได้เข้าเยี่ยมชม เพื่อนำเสนอสินค้าหรือบริการบนเว็บไซต์อื่นที่ไม่ใช่เว็บไซต์ของ BDI ทั้งนี้ หากท่านปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะไม่ส่งผลต่อการใช้งานเว็บไซต์ของ BDI แต่จะส่งผลให้การนำเสนอสินค้าหรือบริการบนเว็บไซต์อื่น ๆ ไม่สอดคล้องกับความสนใจของท่าน

บันทึกการตั้งค่า
ไซต์นี้ลงทะเบียนกับ wpml.org ในฐานะไซต์พัฒนา สลับไปยังไซต์การผลิตโดยใช้รหัส remove this banner.