Business Intelligence การสร้างความได้เปรียบทางธุรกิจจากข้อมูล

Business Intelligence การสร้างความได้เปรียบทางธุรกิจจากข้อมูล

10 มกราคม 2568

ในยุคที่ข้อมูลกลายเป็นทรัพยากรสำคัญที่สุดในการขับเคลื่อนธุรกิจ ความสามารถในการวิเคราะห์และใช้ประโยชน์จากข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันให้กับองค์กร Business Intelligence หรือ BI จึงเป็นเครื่องมือและกระบวนการที่ช่วยให้องค์กรสามารถรวบรวม วิเคราะห์ ในการนำเสนอข้อมูลเชิงลึกเพื่อสนับสนุนการตัดสินใจอย่างชาญฉลาดและมีประสิทธิภาพขององค์กรได้

Business Intelligence คืออะไร

BI คือกระบวนการรวบรวม วิเคราะห์ และแปลงข้อมูลดิบให้เป็นสารสนเทศที่มีคุณค่าเชิงกลยุทธ์ เพื่อนำไปใช้ในการตัดสินใจในเรื่องที่มีความจำเป็นต่อองค์กร โดยการทำ Business Intelligence มีกระบวนการทำงาน 5 ขั้นตอนดังต่อไปนี้

  1. การระบุแหล่งข้อมูล (Data Sources)

ขั้นตอนแรกของการวิเคราะห์ข้อมูลเริ่มจากการที่องค์กรต้องรู้ก่อนว่าข้อมูลที่มีอยู่ได้รับมาจากแหล่งข้อมูลใด เช่น Data Warehouse, Data Lake, Cloud Computing และแหล่งข้อมูลอื่น ๆ

  1. การรวบรวมข้อมูล (Data Collection)

เป็นขั้นตอนที่องค์กรจะรวบรวมข้อมูลที่ได้มาและนำเข้าสู่กระบวนการทำความสะอาดข้อมูล (Data Cleansing) เพื่อให้ข้อมูลมีความถูกต้องก่อนที่จะจัดเก็บให้พร้อมสำหรับการนำไปใช้งานต่อ

  1. การวิเคราะห์ข้อมูล (Data Analysis)

ต่อมาองค์กรจะต้องนำข้อมูลที่เก็บเอาไว้ออกมาวิเคราะห์ข้อมูล เพื่อหาข้อมูลเชิงลึกขององค์กรเอง โดยการใช้เครื่องมือวิเคราะห์ข้อมูลเข้ามาช่วย เช่น Data Mining, Data Discovery และ Data Modeling

  1. การแสดงผลข้อมูล (Data Visualization)

ข้อมูลเชิงลึกมีรายละเอียดมาก องค์กรจึงต้องนำข้อมูลมาแปลงให้อยู่ในรูปแบบที่ผู้ใช้สามารถเข้าใจง่าย ไม่ว่าจะเป็นการทำเป็นกราฟ แผนภูมิ หรือแดชบอร์ด โดยใช้เครื่องมือแสดงผลข้อมูลอย่าง Tableau, Cognos Analytics, Microsoft Excel และ Microsoft Power BI

  1. การทำแผนปฏิบัติการ (Action Plan)

การทำแผนปฏฺิบัติการถือเป็นขั้นตอนสุดท้ายของการทำ Business Intelligence ที่องค์กรจะต้องนำข้อมูลมาพัฒนาให้เป็นแผนที่ปฏิบัติได้จริง

Business Intelligence มีประโยชน์อย่างไรต่อองค์กร

BI ช่วยให้องค์กรมีข้อมูลที่ชัดเจน สนับสนุนการตัดสินใจอย่างมีประสิทธิภาพ และส่งเสริมความได้เปรียบในตลาดธุรกิจดังนี้

  • การสนับสนุนการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์

BI ช่วยให้ผู้บริหารสามารถตัดสินใจโดยอิงจากข้อมูลที่ถูกต้อง มีการวิเคราะห์ข้อมูลอย่างเป็นระบบ แทนการคาดเดา หรือการตัดสินใจโดยใช้ประสบการณ์และสัญชาตญาณ ทำให้สามารถกำหนดกลยุทธ์การตลาดในอนาคตได้แม่นยำบนพื้นฐานข้อมูลเชิงลึก ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสความสำเร็จขององค์กร 

  • การเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน

การนำ BI เข้ามาใช้ในธุรกิจไม่เพียงแต่จะทำให้องค์กรมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นเท่านั้น แต่ยังทำให้ส่วนงานต่าง ๆ สามารถเข้าถึงข้อมูลที่มีการรวบรวมเอาไว้แล้วได้ตลอด โดยไม่ต้องรอเอกสารรายงานที่อาจใช้เวลาดำเนินการนาน ช่วยให้ทีมมีเวลาทำงานและมี Productivity ในการทำงานเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยวิเคราะห์กระบวนการทำงานในองค์กรเพื่อระบุส่วนที่ไม่มีประสิทธิภาพ หรือส่วนที่สามารถปรับปรุงได้ เช่น การลดเวลาที่ใช้ในกระบวนการผลิต หรือการปรับปรุงการจัดการสินค้าคงคลัง

  • การเข้าใจลูกค้าได้อย่างลึกซึ้งมากขึ้น

การวิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้าด้วย BI โดยการรวบรวมข้อมูล เช่น รูปแบบการซื้อสินค้า เหตุผลที่ซื้อสินค้า ปัญหาที่ลูกค้าเจอ แล้วนำข้อมูลเหล่านี้มาสร้างแบบจำลองลูกค้า (Customer Persona) และดูว่าลูกค้าขององค์กรมีลักษณะแบบไหน ก็จะช่วยให้องค์กรรู้จักกลุ่มลูกค้าเป้าหมายและเข้าใจความต้องการของลูกค้ามากขึ้น เพื่อนำไปพัฒนาผลิตภัณฑ์ต่อไป ทั้งยังช่วยให้องค์กรสามารถสร้างความสัมพันธ์ที่ดีขึ้นกับลูกค้า เช่น การปรับปรุงประสบการณ์ลูกค้า หรือการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการให้ตรงกับความต้องการ

  • การคาดการณ์แนวโน้มในอนาคต

เมื่อนำ BI มาใช้ร่วมกับเทคโนโลยีอย่าง Predictive Analytics หรือ การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงพยากรณ์ จะช่วยให้องค์กรสามารถทำนายแนวโน้มในอนาคต เช่น การเปลี่ยนแปลงของตลาด หรือความต้องการของลูกค้า ทำให้องค์กรสามารถวางแผนและเตรียมพร้อมได้ล่วงหน้า รวมถึงช่วยให้องค์กรรู้ว่ามีส่วนไหนที่ต้องแก้ไขเพื่อให้การดำเนินงานดีขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยคาดการณ์ปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นจากการดำเนินงานเพื่อให้องค์กรหาทางแก้ไขได้ทันท่วงที

  • การติดตามและวัดผลเป้าหมายธุรกิจ

องค์กรที่มีการทำ BI จะมีโอกาสในการเห็นข้อมูลด้านการดำเนินการมากขึ้น สามารถรู้ได้ว่ากระบวนการแต่ละส่วนมีประสิทธิภาพมากแค่ไหน ซึ่งจะช่วยในการติดตามตัวชี้วัดประสิทธิภาพ (Key Performance Indicators – KPIs) เพื่อประเมินว่าองค์กรกำลังบรรลุเป้าหมายที่วางไว้หรือไม่ และช่วยปรับกลยุทธ์ให้เหมาะสมได้อย่างรวดเร็ว 

  • การลดต้นทุน 

การใช้ BI วิเคราะห์ข้อมูลช่วยระบุพื้นที่ที่มีค่าใช้จ่ายสูง และหาแนวทางลดต้นทุน เช่น การลดของเสียในกระบวนการผลิต หรือการปรับปรุงเส้นทางการจัดส่งสินค้าให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

  • การเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน

องค์กรที่มีข้อมูลเชิงลึกจะมีความได้เปรียบในการตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของตลาดและการดำเนินการที่รวดเร็วเมื่อเปรียบเทียบกับคู่แข่ง ซึ่งปัจจัยที่จะช่วยให้องค์กรมีความได้เปรียบเหนือคู่แข่ง นั่นคือการรู้ว่าคู่แข่งกำลังวางแผนอะไร ซึ่ง BI จะช่วยให้องค์กรทราบสถานะของบริษัทคู่แข่ง รู้ว่าคู่แข่งมีกลยุทธ์และแนวทางอะไร แล้วนำข้อมูลดังกล่าวมาเป็นข้อมูลในการปรับปรุงสินค้าและบริการ รวมถึงการวางกลยุทธ์ที่ตอบโจทย์ลูกค้าได้ดีกว่า

  • การทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ

BI ช่วยให้องค์กรสามารถสรุปข้อมูลดิบที่มีความซับซ้อนออกมาเป็นข้อมูลที่เข้าใจง่าย และเมื่อนำข้อมูลมาจัดลำดับความสำคัญและแสดงผล ก็จะช่วยให้บุคลากรที่ต้องการนำข้อมูลไปใช้ต่อเข้าใจข้อมูลได้ง่ายขึ้น สามารถนำข้อมูลไปช่วยในการตัดสินใจและตอบคำถามได้ ช่วยให้ทีมงานในองค์กรมีเครื่องมือและข้อมูลที่สามารถแชร์กันได้แบบเรียลไทม์ ทำให้เกิดการประสานงานที่ดีขึ้นและลดความขัดแย้งที่เกิดจากการใช้ข้อมูลที่ไม่ตรงกัน 

แล้ว Business Intelligence นำไปใช้งานอย่างไรได้บ้าง ?

องค์กรสามารถวิเคราะห์ข้อมูลผ่านการใช้งานเครื่องมือ BI ที่มีให้เลือกหลายประเภท ซึ่งสามารถนำไปประยุกต์ใช้งานได้หลากหลาย โดยมี 4 ด้านหลัก ๆ ที่เหมาะกับธุรกิจทุกประเภท ดังนี้

1. ด้านการบริหาร

  • Operational BI เครื่องมือวิเคราะห์ข้อมูลที่จะนำข้อมูลเชิงลึกต่าง ๆ ขององค์กรขึ้นมาแสดงให้เห็นทั้งในรูปแบบ Near Real-Time และ Real-Time เพื่อให้เจ้าของธุรกิจและผู้มีอำนาจนำมาใช้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจในธุรกิจได้
  • Real-Time BI เครื่องมือวิเคราะห์ข้อมูลขั้นสูงที่สามารถนำข้อมูลที่กำลังถูกจัดเก็บไว้ใน Data Warehouse ขึ้นมาแสดงบนแดชบอร์ดให้เห็นแบบ Real-time เพื่อให้เจ้าของธุรกิจ เห็นข้อมูลได้อย่างทันท่วงที สามารถตัดสินใจได้อย่างรวดเร็ว จึงเหมาะกับการนำไปใช้ในองค์กรขนาดใหญ่ที่ต้องการข้อมูลอัปเดตตลอดเวลา

2. ด้านการตลาด

  • Online Analytical Processing (OLAP) เครื่องมือวิเคราะห์ข้อมูลที่เน้นวิเคราะห์ข้อมูลที่มีความซับซ้อนหรือมีปริมาณมากที่เก็บอยู่ใน Data Warehouse ให้ออกมาเป็นข้อมูลเชิงลึกด้วยการประมวลผลความเร็วสูง เพื่อนำผลลัพธ์ออกมาช่วยในการตัดสินใจ จึงเหมาะกับการนำไปใช้ในด้านการตลาดที่มีข้อมูลตัวอักษรและตัวเลขถูกแบ่งประเภทเก็บเอาไว้ในปริมาณมาก
  • Location Intelligence เครื่องมือที่จะช่วยรวบรวมข้อมูลด้านตำแหน่งที่อยู่ของลูกค้ามาวิเคราะห์ และนำข้อมูลที่ได้มาสร้างข้อมูลเชิงลึก เพื่อดูว่าในพื้นที่ดังกล่าวมีปริมาณลูกค้าที่ใช้งานสินค้าอาศัยอยู่มากแค่ไหน มีรายได้เท่าไหร่ และนิยมใช้สินค้าประเภทไหน เพื่อให้องค์กรนำไปพิจารณาได้ว่าจะการทำตลาดสินค้าชนิดในพื้นที่ดังกล่าว

3.ด้านการประชาสัมพันธ์

  • Sentiment Analysis เครื่องมือในการวิเคราะห์ความคิดเห็นของลูกค้า โดยการนำ AI มาใช้วิเคราะห์ข้อความตัวอักษรที่ลูกค้าสื่อสารเข้ามาหาองค์กร ช่วยให้เข้าใจความคิดเห็นของผู้บริโภคและยังเป็นข้อมูลเชิงลึกที่สามารถนำมาออกแบบวิธีการสื่อสารกับลูกค้าได้
  • Reputation Management การบริหารชื่อเสียงและภาพลักษณ์ขององค์กร โดยการสื่อสารผ่านสื่อทุกช่องทางเพื่อให้ลูกค้ามีความคิดเห็นต่อองค์กรในแบบเดียวกันกับที่องค์กรต้องการและมีความภักดีต่อองค์กรต่อไป

4.ด้านการผลิต

  • Manufacturing Execution System (MES) ระบบที่จะช่วยควบคุมการผลิตทุกขั้นตอน และรายงานสถานะการดำเนินการให้ผู้ดูแลทราบแบบ Real-Time เพื่อดูแลกระบวนการผลิตให้เป็นไปตามแผนที่วางไว้ และนำข้อมูลที่ได้ไปวิเคราะห์ เพื่อหาวิธีการเพิ่มประสิทธิภาพให้ดียิ่งขึ้น
  • Predictive Analytics เครื่องมือที่จะช่วยคาดการณ์ผลลัพธ์ของการดำเนินธุรกิจในด้านต่าง ๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต ผ่านการนำข้อมูลของธุรกิจในอดีตและปัจจุบันมาวิเคราะห์ร่วมกันเพื่อให้เห็นความเป็นไปได้และช่วยให้การตัดสินใจมีความแม่นยำมากขึ้น

จากข้อมูลทั้งหมดเราจะเห็นว่า Business Intelligence มีความสำคัญอย่างยิ่ง ไม่ใช่เป็นแค่เทรนด์ทางเทคโนโลยี แต่เป็นเครื่องมือทางกลยุทธ์ที่จำเป็นในโลกธุรกิจปัจจุบัน การนำ BI มาใช้อย่างมีประสิทธิภาพจะช่วยให้องค์กรสามารถปรับตัว สร้างนวัตกรรม และสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันได้อย่างยั่งยืน

สำหรับผู้ที่สนใจทำความเข้าใจเพิ่มเติมเกี่ยวกับ  Business Intelligence สามารถอ่านต่อได้ที่บทความนี้ : เครื่องมือธุรกิจอัจฉริยะที่นิยมในปัจจุบัน (BI Tools) คลิกที่นี่

แหล่งอ้างอิง

https://www.heavy.ai/learn/bi-tools
https://www.ibm.com/topics/business-intelligence

แบ่งปันบทความ

กลุ่มเนื้อหา

แท็กยอดนิยม

แจ้งเรื่องที่อยากอ่าน

คุณสามารถแจ้งเรื่องที่อยากอ่านให้เราทราบได้ !
และเราจะนำไปพัฒนาบทความให้มีเนื้อหาที่น่าสนใจมากขึ้น

ไอคอน PDPA

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ “นโยบายคุ้กกี้” และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ “ตั้งค่า”

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่มีความจำเป็น (Strictly Necessary Cookies)
    เปิดใช้งานตลอด

    คุกกี้ประเภทนี้มีความจำเป็นต่อการให้บริการเว็บไซต์ของ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อให้ท่านสามารถเข้าใช้งานในส่วนต่าง ๆ ของเว็บไซต์ได้ รวมถึงช่วยจดจำข้อมูลที่ท่านเคยให้ไว้ผ่านเว็บไซต์ การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะส่งผลให้ท่านไม่สามารถใช้บริการในสาระสำคัญของ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งจำเป็นต้องเรียกใช้คุกกี้ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์และประเมินผลการใช้งาน (Performance Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้ช่วยให้ BDI ทราบถึงการปฏิสัมพันธ์ของผู้ใช้งานในการใช้บริการเว็บไซต์ของ BDI รวมถึงหน้าเพจหรือพื้นที่ใดของเว็บไซต์ที่ได้รับความนิยม ตลอดจนการวิเคราะห์ข้อมูลด้านอื่น ๆ BDI ยังใช้ข้อมูลนี้เพื่อการปรับปรุงการทำงานของเว็บไซต์ และเพื่อเข้าใจพฤติกรรมของผู้ใช้งานมากขึ้น ถึงแม้ว่า ข้อมูลที่คุกกี้นี้เก็บรวบรวมจะเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้ และนำมาใช้วิเคราะห์ทางสถิติเท่านั้น การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะส่งผลให้ BDI ไม่สามารถทราบปริมาณผู้เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ และไม่สามารถประเมินคุณภาพการให้บริการได้

  • คุกกี้เพื่อการใช้งานเว็บไซต์ (Functional Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้จะช่วยให้เว็บไซต์ของ BDI จดจำตัวเลือกต่าง ๆ ที่ท่านได้ตั้งค่าไว้และช่วยให้เว็บไซต์ส่งมอบคุณสมบัติและเนื้อหาเพิ่มเติมให้ตรงกับการใช้งานของท่านได้ เช่น ช่วยจดจำชื่อบัญชีผู้ใช้งานของท่าน หรือจดจำการเปลี่ยนแปลงการตั้งค่าขนาดฟอนต์หรือการตั้งค่าต่าง ๆ ของหน้าเพจซึ่งท่านสามารถปรับแต่งได้ การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้อาจส่งผลให้เว็บไซต์ไม่สามารถทำงานได้อย่างสมบูรณ์

  • คุกกี้เพื่อการโฆษณาไปยังกลุ่มเป้าหมาย (Targeting Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้เป็นคุกกี้ที่เกิดจากการเชื่อมโยงเว็บไซต์ของบุคคลที่สาม ซึ่งเก็บข้อมูลการเข้าใช้งานและเว็บไซต์ที่ท่านได้เข้าเยี่ยมชม เพื่อนำเสนอสินค้าหรือบริการบนเว็บไซต์อื่นที่ไม่ใช่เว็บไซต์ของ BDI ทั้งนี้ หากท่านปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะไม่ส่งผลต่อการใช้งานเว็บไซต์ของ BDI แต่จะส่งผลให้การนำเสนอสินค้าหรือบริการบนเว็บไซต์อื่น ๆ ไม่สอดคล้องกับความสนใจของท่าน

บันทึกการตั้งค่า
ไซต์นี้ลงทะเบียนกับ wpml.org ในฐานะไซต์พัฒนา สลับไปยังไซต์การผลิตโดยใช้รหัส remove this banner.