10 ทิศทางสำคัญที่ผู้บริหารควรเรียนรู้ในปี 2025 เพื่อความยั่งยืนของธุรกิจ

10 ทิศทางสำคัญที่ผู้บริหารควรเรียนรู้ในปี 2025 เพื่อความยั่งยืนของธุรกิจ

15 พฤศจิกายน 2567

? เตรียมพร้อมสู่ปี 2025: 10 กลยุทธ์ที่ผู้บริหารต้องเรียนรู้เพื่อความยั่งยืนในธุรกิจ 

ในปี 2025 โลกธุรกิจจะเผชิญกับความท้าทายใหม่ที่ผู้บริหารจำเป็นต้องเตรียมพร้อมและปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีและสังคมที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ความยั่งยืน (Sustainability) จะยังคงเป็นหัวใจหลักที่กำหนดทิศทางการเติบโตขององค์กร และความสามารถในการปรับตัวนี้จะเป็นตัวชี้วัดความสำเร็จในระยะยาว บทความนี้จะนำเสนอ 10 เรื่องที่ผู้บริหารควรเรียนรู้เพื่อความสำเร็จและความยั่งยืนในอนาคต 

1. การเปลี่ยนผ่านสู่เทคโนโลยี AI เชิงยั่งยืน

ในยุคที่ AI และ Big Data กำลังเป็นเครื่องมือสำคัญในการพลิกโฉมธุรกิจ ผู้บริหารต้องเข้าใจการนำเทคโนโลยีเหล่านี้มาใช้ในองค์กรอย่างมีจริยธรรมและยั่งยืน หลักสูตร LEAD รุ่นที่ 2 ช่วยให้ผู้บริหารเข้าใจถึงการประยุกต์ใช้ AI ที่ไม่เพียงแค่เพิ่มประสิทธิภาพ แต่ยังสร้างความไว้วางใจในลูกค้าและสังคม 

2. การจัดการความยั่งยืนในห่วงโซ่อุปทาน (Sustainable Supply Chain)

ผู้บริหารควรมีความเข้าใจในกระบวนการของ ห่วงโซ่อุปทาน ที่ยั่งยืน โดยสามารถนำ Big Data มาใช้ในการตรวจสอบแหล่งวัตถุดิบที่มีความรับผิดชอบ และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เช่น การลดการปล่อยคาร์บอนในกระบวนการผลิต รวมถึงการเลือกใช้ซัพพลายเออร์ที่มีจรรยาบรรณและความรับผิดชอบต่อสังคม 

3. การเสริมสร้างความสามารถในการปรับตัว (Adaptability Skills) ? 

การเปลี่ยนแปลงในสภาพตลาดและเทคโนโลยีที่รวดเร็วจำเป็นต้องมีการปรับตัวอย่างต่อเนื่อง ผู้บริหารที่เข้าร่วมหลักสูตร LEAD จะได้รับทักษะในการใช้ Big Data และ AI เพื่อช่วยในการวิเคราะห์แนวโน้มตลาดและทำนายความเปลี่ยนแปลงในอนาคต ทำให้สามารถปรับกลยุทธ์และตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว 

4. การนำ ESG (Environment, Social, Governance) มาใช้ในกลยุทธ์องค์กร ? 

หลักสูตร LEAD รุ่นที่ 2 มุ่งเน้นให้ผู้บริหารเข้าใจการบูรณาการแนวคิด ESG (สิ่งแวดล้อม สังคม และการกำกับดูแล) เข้ากับกลยุทธ์การบริหาร โดยใช้ AI และ Big Data ในการวัดผลกระทบจากกิจกรรมองค์กรที่มีต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ทำให้สามารถพัฒนากลยุทธ์ที่ยั่งยืนและสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนและลูกค้า 

5. ความปลอดภัยทางไซเบอร์และการคุ้มครองข้อมูล (Cybersecurity) ? 

ด้วยการใช้ AI และ Big Data ในการบริหารข้อมูลขนาดใหญ่ ความปลอดภัยทางไซเบอร์จึงเป็นสิ่งสำคัญ หลักสูตร LEAD รุ่นที่ 2 จะช่วยให้ผู้บริหารเข้าใจการปกป้องข้อมูลและความปลอดภัยทางไซเบอร์ โดยการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยในการป้องกันและตอบสนองต่อการโจมตีทางไซเบอร์ 

6. ความเป็นผู้นำในยุคการทำงานแบบไฮบริด (Leadership in a Hybrid Workplace) ?‍? 

การทำงานในรูปแบบ hybrid ที่ผสมผสานการทำงานทั้งออฟไลน์และออนไลน์เป็นแนวโน้มใหม่ในอนาคต ผู้นำต้องเข้าใจการจัดการทีมอย่างมีประสิทธิภาพ โดยใช้ Big Data ในการประเมินการทำงานและสร้างความร่วมมือระหว่างทีมงานจากหลากหลายสถานที่ 

7. การสร้างความโปร่งใสในการทำงานและธุรกิจ (Transparency and Accountability) 

ความโปร่งใสและการมีความรับผิดชอบเป็นพื้นฐานของการทำธุรกิจที่ยั่งยืน Big Data ช่วยให้ผู้บริหารสามารถตรวจสอบและเปิดเผยข้อมูลสำคัญที่มีผลต่อการตัดสินใจในองค์กร โดยสร้างวัฒนธรรมการทำงานที่เน้นความโปร่งใสและมีความรับผิดชอบ 

8. การใช้พลังงานทางเลือกและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก⚡ 

การนำ Big Data และ AI มาใช้ในการวิเคราะห์และพัฒนาแนวทางในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เป็นสิ่งที่ผู้บริหารต้องคำนึงถึงในการขับเคลื่อนองค์กรไปสู่ความยั่งยืน หลักสูตร LEAD จะช่วยให้ผู้บริหารสามารถใช้เทคโนโลยีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้พลังงานทางเลือกและลดการปล่อยคาร์บอน 

9. การพัฒนาและฝึกอบรมบุคลากรอย่างต่อเนื่อง (Continuous Learning and Development) ? 

ในการขับเคลื่อนองค์กรอย่างยั่งยืน ผู้บริหารต้องให้ความสำคัญกับการพัฒนาและฝึกอบรมบุคลากร โดยการใช้ AI เพื่อวิเคราะห์และออกแบบโปรแกรมฝึกอบรมที่ตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของตลาดและเทคโนโลยี 

10. การสร้างสรรค์นวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง (Continuous Innovation) ? 

การสร้างนวัตกรรมที่ต่อเนื่องเป็นกุญแจสำคัญในการเติบโตในยุคที่การแข่งขันสูง AI และ Big Data สามารถช่วยในการค้นหาความท้าทายใหม่ ๆ และนำเสนอนวัตกรรมที่สามารถตอบสนองต่อความต้องการของตลาดได้อย่างทันเวลา 

? ปี 2025 จะเป็นปีแห่งการเปลี่ยนแปลงและการปรับตัวสำหรับผู้บริหารที่ต้องการนำองค์กรให้เติบโตอย่างยั่งยืน ความเข้าใจใน 10 เรื่องสำคัญจะช่วยให้ผู้บริหารมีวิสัยทัศน์ที่ก้าวไกลและปรับกลยุทธ์ได้ทันสมัย ตั้งแต่การประยุกต์ใช้เทคโนโลยี AI การจัดการห่วงโซ่อุปทานที่ยั่งยืน ไปจนถึงการสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่เปิดรับการทำงานแบบไฮบริด การเพิ่มทักษะการนำองค์กรในยุคแห่งการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วจะเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้ผู้บริหารสามารถก้าวนำและรับมือกับความท้าทายในโลกธุรกิจที่เต็มไปด้วยการแข่งขัน 

เพิ่มโอกาสในการพัฒนาทักษะเพื่อก้าวนำในยุคที่การเปลี่ยนแปลงรวดเร็วนั้นอยู่ที่นี่แล้ว อย่าพลาด! สมัครเรียนหลักสูตร LEAD: Big Data and AI for Sustainable Future (LEAD รุ่นที่ 2) เพื่อเตรียมพร้อมสู่การเป็นผู้นำยุคใหม่ที่พร้อมเผชิญความท้าทายและสร้างความสำเร็จอย่างยั่งยืน 

? รีบจองที่นั่ง Early Bird ได้แล้ววันนี้  

ราคา 189,900 บาท จากราคาปกติ 209,900 บาท (รวมศึกษาดูงานทั้งในประเทศ และต่างประเทศ) 

?ศึกษารายละเอียดหลักสูตรเพิ่มเติม: https://temp.bdi.or.th/executive-course/ 

?ท่านสามารถแจ้งความประสงค์เพื่อลงทะเบียนหลักสูตรได้ที่: https://forms.gle/QFW229rG7cbjx53R6 

? ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม Email: businesspromotion@bdi.or.th หรือ โทร: 02 480 8833 ต่อ 9552 และ 9579 

บทความโดย เบญญาภา ราชแก้ว

แบ่งปันบทความ

กลุ่มเนื้อหา

แท็กยอดนิยม

แจ้งเรื่องที่อยากอ่าน

คุณสามารถแจ้งเรื่องที่อยากอ่านให้เราทราบได้ !
และเราจะนำไปพัฒนาบทความให้มีเนื้อหาที่น่าสนใจมากขึ้น

ไอคอน PDPA

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ “นโยบายคุ้กกี้” และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ “ตั้งค่า”

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่มีความจำเป็น (Strictly Necessary Cookies)
    เปิดใช้งานตลอด

    คุกกี้ประเภทนี้มีความจำเป็นต่อการให้บริการเว็บไซต์ของ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อให้ท่านสามารถเข้าใช้งานในส่วนต่าง ๆ ของเว็บไซต์ได้ รวมถึงช่วยจดจำข้อมูลที่ท่านเคยให้ไว้ผ่านเว็บไซต์ การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะส่งผลให้ท่านไม่สามารถใช้บริการในสาระสำคัญของ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งจำเป็นต้องเรียกใช้คุกกี้ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์และประเมินผลการใช้งาน (Performance Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้ช่วยให้ BDI ทราบถึงการปฏิสัมพันธ์ของผู้ใช้งานในการใช้บริการเว็บไซต์ของ BDI รวมถึงหน้าเพจหรือพื้นที่ใดของเว็บไซต์ที่ได้รับความนิยม ตลอดจนการวิเคราะห์ข้อมูลด้านอื่น ๆ BDI ยังใช้ข้อมูลนี้เพื่อการปรับปรุงการทำงานของเว็บไซต์ และเพื่อเข้าใจพฤติกรรมของผู้ใช้งานมากขึ้น ถึงแม้ว่า ข้อมูลที่คุกกี้นี้เก็บรวบรวมจะเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้ และนำมาใช้วิเคราะห์ทางสถิติเท่านั้น การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะส่งผลให้ BDI ไม่สามารถทราบปริมาณผู้เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ และไม่สามารถประเมินคุณภาพการให้บริการได้

  • คุกกี้เพื่อการใช้งานเว็บไซต์ (Functional Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้จะช่วยให้เว็บไซต์ของ BDI จดจำตัวเลือกต่าง ๆ ที่ท่านได้ตั้งค่าไว้และช่วยให้เว็บไซต์ส่งมอบคุณสมบัติและเนื้อหาเพิ่มเติมให้ตรงกับการใช้งานของท่านได้ เช่น ช่วยจดจำชื่อบัญชีผู้ใช้งานของท่าน หรือจดจำการเปลี่ยนแปลงการตั้งค่าขนาดฟอนต์หรือการตั้งค่าต่าง ๆ ของหน้าเพจซึ่งท่านสามารถปรับแต่งได้ การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้อาจส่งผลให้เว็บไซต์ไม่สามารถทำงานได้อย่างสมบูรณ์

  • คุกกี้เพื่อการโฆษณาไปยังกลุ่มเป้าหมาย (Targeting Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้เป็นคุกกี้ที่เกิดจากการเชื่อมโยงเว็บไซต์ของบุคคลที่สาม ซึ่งเก็บข้อมูลการเข้าใช้งานและเว็บไซต์ที่ท่านได้เข้าเยี่ยมชม เพื่อนำเสนอสินค้าหรือบริการบนเว็บไซต์อื่นที่ไม่ใช่เว็บไซต์ของ BDI ทั้งนี้ หากท่านปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะไม่ส่งผลต่อการใช้งานเว็บไซต์ของ BDI แต่จะส่งผลให้การนำเสนอสินค้าหรือบริการบนเว็บไซต์อื่น ๆ ไม่สอดคล้องกับความสนใจของท่าน

บันทึกการตั้งค่า
ไซต์นี้ลงทะเบียนกับ wpml.org ในฐานะไซต์พัฒนา สลับไปยังไซต์การผลิตโดยใช้รหัส remove this banner.