การใช้ข้อมูลผู้ใช้โทรศัพท์มือถือในการประเมินผลกระทบของการมาตรการ Social Distancing และ work-from-home

การใช้ข้อมูลผู้ใช้โทรศัพท์มือถือในการประเมินผลกระทบของการมาตรการ Social Distancing และ work-from-home

07 เมษายน 2563
ภาพที่ 1: ข้อมูลผู้ใช้โทรศัพท์มือถือพบว่าประชาชนทั่วประเทศสหรัฐฯลดการเดินทางลงหลังจากมีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้น
ที่มาภาพ: https://www.nytimes.com/interactive/2020/03/23/opinion/coronavirus-economy-recession.html

ล่าสุดทางบริษัท Descartes Labs ซึ่งเป็นบริษัทที่เชี่ยวชาญด้านการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงพื้นที่ (Spatial data) ได้นำเสนอข้อมูลที่แสดงให้เห็นถึงผลกระทบของการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาในอเมริกาว่าประชาชนลดการเดินทางลงอย่างเห็นได้ชัดหลังจากที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้น โดยผู้ที่สนใจสามารถเข้าถึงข้อมูลชุดนี้ได้ฟรีจาก https://github.com/descarteslabs/DL-COVID-19 

ภาพที่ 2: การใช้ข้อมูลเชิงพื้นที่แสดงผลกระทบของมาตรการ Social Distancing และ work-from-home
ที่มาภาพ: https://www.descarteslabs.com/mobility/

ประเทศสหรัฐฯเป็นหนึ่งในประเทศที่มีผู้ติดเชื้อCOVID-2019อยู่เป็นอันดับต้นๆของโลก ทางรัฐบาลจึงมีมาตรการลดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาโดยให้ประชาชนทำ Social Distancing และ work-from-home อย่างไรก็ตาม การตอบสนองนโยบายหรือประสิทธิภาพของนโยบายอาจจะขึ้นอยู่กับพฤติกรรมของประชาชนในแต่ละเขต เราจะสามารถที่จะใช้เทคโนโลยี Big Data มาตรวจสอบผลกระทบของการใช้มาตรการ Social Distancing และ work-from-home ได้อย่างไร

ภาพที่ 3: เปรียบเทียบการเดินทางของประชาชนก่อน – หลังมีมาตรการ Social Distancing และ work-from-home

ที่มาภาพ: https://www.nytimes.com/interactive/2020/03/23/opinion/coronavirus-economy-recession.html

ข้อมูลเชิงตำแหน่งจากโทรศัพท์มือถือและการเปรียบเทียบค่าเฉลี่ยของระยะการเดินทาง 

เราสามารถนำข้อมูลเชิงตำแหน่งจากโทรศัพท์มือถือมาคำนวณหาระยะการเดินทางของแต่ละบุคคลในแต่วัน จากนั้นเรานำข้อมูลระดับบุคคลมาสร้างเป็นข้อมูลระดับรัฐเพื่อจะใช้ในการเปรียบเทียบว่าในแต่ละวันนั้น ระยะการเดินทางเฉลี่ยของประชาชนในแต่ละรัฐนั้นได้เพิ่มขึ้นหรือลดน้อยลงจากค่าปกติมากน้อยเท่าใด หากประชาชนในรัฐใดมีระยะการเดินทางเฉลี่ยของแต่ละวันลดลง ก็น่าจะแสดงให้เห็นว่าประชาชนในรัฐนั้นโดยเฉลี่ยแล้วมีการทำตามนโยบาย Social Distancing และ work-from-home อย่างชัดเจน แต่หากระยะการเดินทางเฉลี่ยของแต่ละวันไม่มีการลดลงเลยหรือเปลี่ยนแปลงน้อยมาก ก็ย่อมแสดงว่าประชาชนในรัฐนั้นไม่ปฎิบัติตามคำแนะนำของแพทย์และรัฐบาล

สำหรับค่าปกติที่จะนำมาใช้ในการเปรียบเทียบนั้น สามารถใช้ moving-average มาคำนวณค่าปกติตัวนี้ได้ เนื่องจากข้อมูลเชิงตำแหน่งที่นำมาใช้เป็นข้อมูลในลักษณะของข้อมูลอนุกรมเวลา (time series data) นั่นคือเป็นข้อมูลที่แสดงค่าตามกาลเวลา ซึ่งในกราฟเส้นตามภาพที่ 3 นั้น เจ้าของกราฟได้ใช้ 3-day moving average มาคำนวณหาค่าปกติ

การใช้สีเพื่อบ่งบอกความนิยมพรรคการเมืองในแต่ละรัฐ 

ประเทศสหรัฐฯเป็นประเทศที่ใช้ระบบการเมืองแบบสองพรรค คือ พรรคริพับลิกัน (Republican Party) กับพรรคเดโมแครต (Democrat Party) โดยพรรคริพับลิกันจะใช้สีแดงเป็นสีประจำพรรค ส่วนพรรคเดโมแครตจะใช้สีน้ำเงิน นักวิจัยที่สร้างvisualizationชุดนี้ได้ใช้สีประจำพรรคการเมือง เพื่อสื่อให้เห็นว่าความนิยมในพรรคการเมืองของประชาชนส่วนใหญ่ในรัฐนั้นจะมีผลกระทบต่อการตอบสนองของมาตรการที่ออกโดยรัฐบาลหรือไม่ การกำหนดค่าของสีนั้นใช่ข้อมูลจาก Partisan Voter Index ของการเลือกตั้งในปี 2017 เพื่อบ่งบอกว่ารัฐไหนควรแสดงเป็นสีใดบนกราฟเส้น จากกราฟเส้นในรูปภาพที่ 1 เราสามารถเห็นได้อย่างชัดเจนว่า ถึงแม้ทุกรัฐในประเทศสหรัฐฯจะเกรงกลัวต่อการติดเชื้อไวรัสโคโรนา บางรัฐมีพฤติกรรมการเดินทางที่ลดลงอย่างรวดเร็วและเห็นได้ชัดเจน ในขณะที่บางรัฐมีพฤติกรรมการเดินทางที่ลดลง แต่ก็ไม่ได้ลดลงอย่างรวดเร็ว

ดังนั้น การที่ผู้สร้างกราฟเส้นชุดนี้ได้ใช้สีประจำพรรคการเมืองมาแยกระหว่างรัฐที่นิยมพรรคริพับลิกันกับรัฐที่นิยมพรรคเดโมแครต จึงทำให้เราสามารถมองเห็นอย่างทันทีและชัดเจนว่า ความนิยมของพรรคการเมืองน่าจะมีผลกับความเร็วหรือความเข้มข้นในการตอบสนองมาตรการSocial Distancing และ work-from-home ด้วย รัฐที่นิยมพรรคเดโมแครต (เส้นสีน้ำเงิน) นั้นส่วนใหญ่จะลดการเดินทางลงกันอย่างเห็นได้ชัดเจนและรุนแรงกว่ารัฐที่นิยมพรรคริพับลิกัน (เส้นสีแดง) แต่สุดท้ายแล้ว สิ่งที่เราเห็นได้อย่างแน่ชัดคือไม่ว่าจะเป็นรัฐใดก็ตาม จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาที่เพิ่มสูงขึ้นส่งผลให้ประชาชนทั่วทุกรัฐในประเทศสหรัฐฯลดการเดินทางลงอย่างเห็นได้ชัด 

ดังนั้น ข้อมูลเชิงตำแหน่งจากโทรศัพท์มือถือน่าจะสามารถที่จะนำมาใช้ตรวจสอบผลกระทบของการออกมาตรการ Social Distancing และ work-from-home ในแต่ละประเทศได้อย่างมีประสิทธิผล

ที่มาเนื้อหา: 

  1. https://www.nytimes.com/interactive/2020/03/23/opinion/coronavirus-economy-recession.html
  2. https://www.descarteslabs.com/mobility/
  3. https://flowingdata.com/2020/03/24/mobile-phone-data-shows-decreased-movement-nationwide/

Vice President, Data Analytics Services Division (DAS)
Big Data Institute (Public Organization), BDI

แบ่งปันบทความ

กลุ่มเนื้อหา

แท็กยอดนิยม

แจ้งเรื่องที่อยากอ่าน

คุณสามารถแจ้งเรื่องที่อยากอ่านให้เราทราบได้ !
และเราจะนำไปพัฒนาบทความให้มีเนื้อหาที่น่าสนใจมากขึ้น

ไอคอน PDPA

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ “นโยบายคุ้กกี้” และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ “ตั้งค่า”

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่มีความจำเป็น (Strictly Necessary Cookies)
    เปิดใช้งานตลอด

    คุกกี้ประเภทนี้มีความจำเป็นต่อการให้บริการเว็บไซต์ของ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อให้ท่านสามารถเข้าใช้งานในส่วนต่าง ๆ ของเว็บไซต์ได้ รวมถึงช่วยจดจำข้อมูลที่ท่านเคยให้ไว้ผ่านเว็บไซต์ การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะส่งผลให้ท่านไม่สามารถใช้บริการในสาระสำคัญของ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งจำเป็นต้องเรียกใช้คุกกี้ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์และประเมินผลการใช้งาน (Performance Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้ช่วยให้ BDI ทราบถึงการปฏิสัมพันธ์ของผู้ใช้งานในการใช้บริการเว็บไซต์ของ BDI รวมถึงหน้าเพจหรือพื้นที่ใดของเว็บไซต์ที่ได้รับความนิยม ตลอดจนการวิเคราะห์ข้อมูลด้านอื่น ๆ BDI ยังใช้ข้อมูลนี้เพื่อการปรับปรุงการทำงานของเว็บไซต์ และเพื่อเข้าใจพฤติกรรมของผู้ใช้งานมากขึ้น ถึงแม้ว่า ข้อมูลที่คุกกี้นี้เก็บรวบรวมจะเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้ และนำมาใช้วิเคราะห์ทางสถิติเท่านั้น การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะส่งผลให้ BDI ไม่สามารถทราบปริมาณผู้เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ และไม่สามารถประเมินคุณภาพการให้บริการได้

  • คุกกี้เพื่อการใช้งานเว็บไซต์ (Functional Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้จะช่วยให้เว็บไซต์ของ BDI จดจำตัวเลือกต่าง ๆ ที่ท่านได้ตั้งค่าไว้และช่วยให้เว็บไซต์ส่งมอบคุณสมบัติและเนื้อหาเพิ่มเติมให้ตรงกับการใช้งานของท่านได้ เช่น ช่วยจดจำชื่อบัญชีผู้ใช้งานของท่าน หรือจดจำการเปลี่ยนแปลงการตั้งค่าขนาดฟอนต์หรือการตั้งค่าต่าง ๆ ของหน้าเพจซึ่งท่านสามารถปรับแต่งได้ การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้อาจส่งผลให้เว็บไซต์ไม่สามารถทำงานได้อย่างสมบูรณ์

  • คุกกี้เพื่อการโฆษณาไปยังกลุ่มเป้าหมาย (Targeting Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้เป็นคุกกี้ที่เกิดจากการเชื่อมโยงเว็บไซต์ของบุคคลที่สาม ซึ่งเก็บข้อมูลการเข้าใช้งานและเว็บไซต์ที่ท่านได้เข้าเยี่ยมชม เพื่อนำเสนอสินค้าหรือบริการบนเว็บไซต์อื่นที่ไม่ใช่เว็บไซต์ของ BDI ทั้งนี้ หากท่านปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะไม่ส่งผลต่อการใช้งานเว็บไซต์ของ BDI แต่จะส่งผลให้การนำเสนอสินค้าหรือบริการบนเว็บไซต์อื่น ๆ ไม่สอดคล้องกับความสนใจของท่าน

บันทึกการตั้งค่า
ไซต์นี้ลงทะเบียนกับ wpml.org ในฐานะไซต์พัฒนา สลับไปยังไซต์การผลิตโดยใช้รหัส remove this banner.